วิธีลัดในการสร้างเว็บให้ Google Adsense อนุมัติเร็วที่สุด 2018 ตอนที่ 7(ตอนจบ)

วิธีลัดในการสร้างเว็บให้ Google Adsense อนุมัติเร็วที่สุด 2018 ตอนที่ 7

วิธีลัดในการสร้างเว็บให้ Google Adsense อนุมัติเร็วที่สุด 2018 ตอนที่ 7

ประเด็นที่ 11 เรื่อง ปริมาณคนเข้าชมเว็บไซต์ หรือ Traffic

          เรื่องปริมาณคนเข้าชมเว็บของคุณ Google ก็นำมาพิจารณาในการอนุมัติ Google Adsense ด้วยเหมือนกัน ในภาษา SEO เขาเรียกว่า Traffic ส่วนคำว่า Traffic หมายถึงอะไร [คลิกอ่านที่นี่ ##eye##] มีคนเคยถามว่า จะต้องให้มี ปริมาณการเข้าชมเท่าไร Google จึงจะอนุมัติ คำตอบคือ ทาง Google ไม่ได้กำหนดไว้ แต่ถ้ายิ่งมีมากก็จะยิ่งทำให้ Google อนุมัติ Google Adsense ได้เร็วขึ้นเท่านั้น
         แต่ไม่ต้องตกใจครับสำหรับคนทำเว็บมือใหม่ ลองคิดดูว่า เว็บเราเพิ่งสร้างใครจะไปรู้จัก เรื่องนี้ Google ก็เข้าใจ ผมขอเล่าประสบการณ์ตรงของผม จากการทำเว็บแรก ที่เคยยกตัวอย่างมาในโพสท์ที่ผ่านมา ว่า ผมลงบทความไว้เพียง ไม่ถึง 20 บทความ เป็นข้อสอบเป็นส่วนใหญ่นะ ไม่ใช่บทความยาวๆ และการทำเว็บของผมไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อจะสมัคร Google Adsense หลังจากที่ลงบทความแล้ว ผมก็แชร์บทความลงเฟสบุ๊ค แต่ก็ไม่แชร์ลงทั้งหมด เพราะขี้เกียจ แชร์เพื่อให้ Social ได้รับรู้บ้างว่าเรามีข้อมูลดีๆ มาเผยแพร่ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ บทความนั้นยังไม่มีใครเคยเขียนมาก่อน และเมื่อผมค้นหาใน Google ก็พบบทความดังกล่าวด้วย แสดงว่ามันเริ่มติดอันดับใน google แล้ว หรือเรียกว่า Rank Article ดังนั้นผมจึงแนะนำว่า ถ้าอยากให้ Google Adsense อนุมัติ ช่วงแรก เราต้องสร้างบทความที่มีลักษณะไม่ซ้ำใครจะดีมาก ไม่เกี่ยวกับว่าใครจะเข้ามาดูมากน้อยแค่ไหน
        ต่อมาภายหลัง ผมได้ไปอ่านที่เซียน Google Adsense พูดไว้ คือ เทคนิคก็คือ ให้คุณแชร์ บทความที่คุณเขียน ลงบน Social แค่นี้ ก็คือว่าเป็นไปตามเงื่อนไขของ Google Adsense แล้วครับ ลงในเฟสบุ๊คดีที่สุดแล้ว ณ เวลานี้  เพราะฉะนั้นใครที่ยังไม่ได้ทำก็รีบทำครับ Google จะให้ความสำคัญต่อการทำ SEO แบบไม่ตั้งใจ

ประเด็นที่ 11 เรื่อง การแจ้งข้อมูลเว็บไซต์เราให้ Google ทราบ หรือ เรียกว่า Webmaster Sumbission

          ก่อนที่คุณจะขอ อนุมัติ Google Adsense ให้ตรวจสอบว่า คุณได้ทำสิ่งนี้หรือยัง ถ้ายังไม่ทำก็ให้ทำก่อนครับ เรื่อง การส่งรายชื่อเว็บของเราให้ google ทราบผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า Google Search Console เพื่อให้ Google ได้เข้ามาเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเว็บของเรา รวมถึงคำแนะนำต่างๆ ส่วนคำว่า Google Search Console คืออะไร  [คลิกอ่านที่นี่ ##eye##]   วิธีการทำ สำหรับ Blogger มีขั้นตอนดังนี้ครับ

1. ให้ ล๊อคอินเข้าไปที่ Blogspot ของคุณ
2. ไปที่ Setting > Serach Preferences เมื่อเห็น Google Search Console ก็ให้คลิก edit (ตามภาพ)
   

3. ระบบก็จะนำคุณไปสู่หน้าของ https://www.google.com/webmasters/tools โดยตรง ถ้าคุณใช้ Gmail อยู่ ต่อมาให้คลิกที่ ADD PROPERTY ตรงมุมขวาบน (ตามภาพ)

4. จะปรากฎหน้าต่างขึ้นมา ให้ใส่เว็บของคุณ แล้วคลิก ADD (ตามภาพ)

5. ยังอยู่ที่หน้านั้น ต่อมาให้คลิกที่ Sitemap (ตามภาพ)

6. ต่อมาให้คลิกที่ปุ่ม ADD/TEST SITEMAP (ตามภาพ)

7. จากนั้น ช่องว่างให้ใส่ คำว่า  sitemap.xml  และคลิก Submit (ภามภาพ)

8. เมื่อเรา คลิก Submit แล้วก็จะ กลับเข้าสู่หน้าหลัก ขั้นต่อไปให้คลิก robots.txt Tester แล้วคลิก Test

9. ผลที่ได้ก็จะเป็นแบบนี้

10. เป็นอันเสร็จสิ้น ขั้นตอนการ Submit Google Search Console  เพื่อให้ บอทของ Google ได้เข้ามาเก็บรายละเอียดเกี่ยวกับเว็บเราได้แล้วครับ

     สำหรับโพทส์นี้ จบไว้ที่ 2 เรื่อง คือ Traffic ของเว็บ และ การ ทำ Webmaster Sumbission ที่เราจะต้องทำให้เรียบร้อย ก่อนการขออนุมัติจาก Google Adsense

ประเด็นที่ 12 เรื่องการเปลี่ยนโลโก้เว็บและรูป favicon

          เรื่องนี้ ผมคิดว่าหลายคนก็ทำอยู่แล้ว และเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก ทำไม Google ถึงให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้ หลักการไม่มีอะไรมากครับ Google มองว่า เว็บไซต์ที่ดูมีมาตรฐานและเป็นมืออาชีพ ควรมีการระบุแบรนด์ ความเป็นตัวตน แสดงถึงความรับผิดชอบต่อเนื้อหา ความเชื่อมันในเนื้อหาก็มีมากขึ้น ย่อมส่งผลต่อการคลิกโฆษณาไปด้วย มีคนบอกว่า Google ให้ความสำคัญต่อเว็บที่มี โก้เว็บและรูป favicon มาเป็นอันดับต้นก่อน ถ้าเราใช้ favicon เดิมของ Blogspot นั้น ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องเสียหายอะไร แต่มันจะดู โลคลาสไปนิดหนึ่งก็เท่านั้นเอง 

          การเปลี่ยนรูป favicon ผมคิดว่าคนที่ทำ Blogspot ทุกคนสามารถแก้ไขได้ โดยไปที่ Layout วิธีการทำก็ไม่ยาก มีเงื่อนไขว่า เราต้องสร้างภาพที่มีขนาดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เช่น สร้างรูปขนาด 400x400 Pixel โดยมีขนาดไฟล์ภาพห้ามเกิน 100 KB แล้วก็ทำการอัพโหลดขึ้นไปได้เลย 

          

          สำหรับโลโก้เว็บนั้น ควรเป็นภาพที่เราสร้างขึ้นมาเอง ไม่ควรนำภาพจากอินเตอร์เน็ต สำหรับขนาดโลโก้นั้น แล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละ Template ที่คุณใช้อยู่ สรุป ประเด็นที่กล่าวมานั้น ไม่ใช่เป็นข้อบังคับจาก Google  ว่าทุกคนจะต้องปฏิบัติ เว็บที่ไม่ได้ทำ ก็สามารถสมัคร Google Adsense ผ่านได้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ที่กล่าวมาอยู่ในประเด็นที่ว่า ทำอย่างไรให้ Google สนใจเว็บเรามากเป็นพิเศษก็เท่านั้นเองครับ

ประเด็นที่ 13 เรื่องการติด Ad หรือ ป้ายโฆษณาของพันธมิตรอื่นภายในเว็บ(สำคัญมาก)

          ผมเชื่อว่าประเด็นนี้หลายคนอาจจะลืมคิดไป ก่อนที่คุณจะสมัคร Google Adsense แนะนำให้คุณนำโฆษณาของเจ้าอื่นออกไปให้หมดก่อน เพราะเป็นสิ่งที่ Google เกลียดที่สุด และก็อาจเป็นประเด็นที่ Google อนุมัติ Google Adsense ยิ่งยากขึ้น บางเว็บลงข้อมูล หลายร้อย บทความ แต่ในเว็บมีโฆษณาที่อื่นติดเต็มไปหมด ก็สงสัยว่า ทำไม่สมัคร Google Adsense ยังไม่ผ่าน จากประสบการณ์ตรงของผมโดยบังเอิญ เว็บแรกที่ผมทำนั้น ไม่มีโฆษณาอะไรเลย เพราะผมไม่อยากให้เว็บมันดูสะอาด เพราะเป็นเว็บเพื่อการศึกษา อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ Google อนุมัติ ทั้งๆ ที่ภายในเว็บ บทความก็มีอยู่ไม่กี่ชิ้น

          เทคนิคต่อมาก็คือ เมื่อ Google อนุมัติ Adsense ให้กับเว็บเราเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไป เราก็รีบเอาโฆษณาเก่าที่เราเคยลงไว้มาติดบนเว็บตามปกติ ก็ไม่เห็นจะเป็นเรื่องยากอะไร

          จากทั้งหมดที่กล่าวมาทั้ง 13 ประเด็น ล้วนมีความสำคัญทั้งหมด ที่จะทำให้ Google อนุมัติ Google Adsense ให้คุณได้เร็วที่สุด และ ได้ผลแน่นอน เพราะคนที่เล่าผมมา เป็นฝรั่งที่ได้ลองผิดลองถูก จนได้ข้อสรุปและเขียนออกมาเป็นข้อๆ และก็ตรงกับความเห็นของผมด้วย หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับทุกๆ ไม่มากก็น้อย ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เป็นประเด็นรองๆ ลงมา ผมจะนำมาเขียนลงเรื่อยๆ ในสมองตอนนี้มีเยอะมากเกี่ยวกับ Blogspot เพียงแต่จะมีเวลาทำข้อมูลหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง ภาระกิจแรกที่ผมคิดจะเขียนก็คงจบไว้แค่นี้ คือ ให้ทุกคนผ่านการอนุมัติจาก Google Adsense เป็นเป้าหมายของการสร้างรายได้จากการทำเว็บ  ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ หรอกครับ สุดท้ายแล้วรายได้จาก Google Adsense จะมาจาก คุณภาพของเนื้อหาเป็นหลัก รวมถึงการหาวิธีดึงดูดให้คนเข้ามาเว็บเราให้มากและบ่อย